ลำดับ | เรื่องที่ต้องปฏิบัติ |
อ้างอิงกฎหมาย ฉบับที่ |
---|---|---|
พระราชบัญญัติ ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน พ.ศ. 2554
จำนวน 2 ฉบับ |
||
พระราชบัญญัติ โรงงาน พ.ศ. 2535
จำนวน 3 ฉบับ |
||
1 | ผู้ประกอบกิจการโรงงานหรือนายจ้างซึ่งผลิตหรือมีไว้ในครอบครองซึ่งต้นกำเนิดรังสีต้องแจ้งจำนวน และปริมาณความแรงรังสีดังกล่าวต่ออธิบดีหรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมายภายใน 7 วันนับตั้งแต่วันที่ผลิตหรือมีไว้ในครอบครอง | [1],[2],[3] |
2 | ผู้ประกอบกิจการโรงงานหรือนายจ้างต้องกำหนดพื้นที่ควบคุมโดยจัดทำรั้ว คอกกั้น หรือเส้นแสดงแนวเขต และจัดทำป้ายเตือนข้อความ "ระวังอันตรายจากรังสี ห้ามเข้า" อย่างน้อยเป็นภาษาไทย ด้วยอักษรสีดำบนพื้นสีเหลืองแสดงไว้ให้เห็นโดยชัดเจนในบริเวณนั้น | [1],[2],[3] |
3 | ห้ามลูกจ้างซึ่งไม่มีหน้าที่ปฏิบัติงานเกี่ยวข้องกับรังสี หรือบุคคลภายนอกหรือหญิงมีครรภ์เข้าไปในบริเวณพื้นที่ควบคุมโดยไม่ได้รับอนุญาต | [1],[2],[3] |
4 | ผู้ประกอบกิจการโรงงานหรือนายจ้างต้องจัดเครื่องมือหรืออุปกรณ์ช่วยลดปริมาณรังสีที่ต้นกำเนิดรังสีหรือที่ทางผ่านของรังสี และกำหนดวิธีและเวลาการทำงานเพื่อป้องกันมิให้ลูกจ้างซึ่งปฏิบัติงานในพื้นที่ควบคุมได้รับปริมาณรังสีสะสมเกินเกณฑ์กำหนด ตามที่กฎหมายกำหนด | [1],[2],[3] |
5 | ผู้ประกอบกิจการโรงงานหรือนายจ้างต้องจัดทำข้อมูลเกี่ยวกับปริมาณรังสีสะสมที่ลูกจ้างได้รับเป็นประจำทุกเดือนตามแบบที่กฎหมายกำหนด | [1],[2],[3] |
6 | ผู้ประกอบกิจการโรงงานหรือนายจ้างต้องจัดให้มีลูกจ้างเป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการทางด้านเทคนิคในเรื่องรังสีประจำสถานประกอบกิจการตลอดระยะเวลาที่มีการทำงานเกี่ยวกับรังสี | [1],[2],[3] |
7 | ห้ามให้ลูกจ้างเข้าพักอาศัย พักผ่อน นำอาหาร เครื่องดื่มหรือบุหรี่เข้าไปในพื้นที่ควบคุม | [1],[2],[3] |
8 | ผู้ประกอบกิจการโรงงานหรือนายจ้างต้องจัดเตรียมที่ล้างมือ ที่ล้างน้ำและที่อาบน้ำ เพื่อให้ลูกจ้างใช้หลังจากปฏิบัติงานเกี่ยวกับรังสีก่อนออกจากที่ทำงาน และต้องให้ลูกจ้างถอดชุดทำงานที่ใช้ปฏิบัติงานเป็นไว้ในสถานที่เหมาะสมเป็นสัดส่วนโดยเฉพาะ | [1],[2],[3] |
9 | ผู้ประกอบกิจการโรงงานหรือนายจ้างต้องจัดให้มีแผนป้องกันและระงับอันตรายจากรังสีในภาวะการทำงานปกติและเหตุฉุกเฉินทางรังสีหรืออุบัติเหตุ และต้องมีการฝึกซ้อมแผนฉุกเฉินทั้งสองรูปแบบอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง | [1],[2],[3] |
10 | ผู้ประกอบกิจการโรงงานหรือนายจ้างต้องเก็บรักษา เคลื่อนย้าย และขนส่งต้นกำเนิดรังสี รวมทั้งการจัดการกากกัมมันตภาพรังสีเพื่อให้เกิดความปลอดภัยแก่ลูกจ้างตามเงื่อนไขและวิธีการที่กฎหมายกำหนด | [1],[2],[3] |
11 | ผู้ประกอบกิจการโรงงานหรือนายจ้างต้องจัดให้มีเครื่องหมาย ฉลาก และสัญญาณเตือน เช่น เครื่องหมายเตือนภัย ฉลากที่มีเครื่องหมายและข้อความเตือน เป็นต้น โดยมีรายละเอียดเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด | [1],[2],[3] |
12 | ผู้ประกอบกิจการโรงงานหรือนายจ้างต้องจัดรายงานเหตุฉุกเฉินทางรังสีหรืออุบัติเหตุร้ายแรง ภายในสามสิบวันนับตั้งแต่วันที่เกิดเหตุการณ์ ในกรณีที่มีการตาย การเจ็บป่วย การประสบภัย หรือการเกิดโรคจากการทำงานเกี่ยวกับรังสีขึ้นอันเนื่องจากเหตุฉุกเฉินทางรังสีหรืออุบัติเหตุร้ายแรงนั้น ต้องจัดรายงานเหตุฉุกเฉินทางรังสีหรืออุบัติเหตุร้ายแรง ภายในสิบห้าวันนับตั้งแต่วันที่เกิดเหตุการณ์ | [1],[2],[3] |
13 | ผู้ประกอบกิจการโรงงานหรือนายจ้างต้องจัดให้มีอุปกรณ์คุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคลให้ลูกจ้าง และต้องอบรมลูกจ้างให้ความเข้าใจอันตรายและวิธีการป้องกันอันตรายจากรังสีก่อนเข้ารับหน้าที่ในพื้นที่ควบคุม | [1],[2],[3] |
14 | ผู้ประกอบกิจการโรงงานหรือนายจ้างต้องจัดให้ลูกจ้างที่ทำงานเกี่ยวข้องกับรังสีตรวจสุขภาพอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง | [1],[2],[3] |
15 | ผู้ประกอบกิจการโรงงานที่มีการใช้สารกัมมันตรังสี ต้องจัดให้มีเจ้าหน้าที่ที่มีคุณสมบัติสำเร็จการศึกษาไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีทางด้านวิทยาศาสตร์ ที่มีการศึกษาเกี่ยวกับการป้องกันอันตรายจากรังสีอย่างน้อยสามหน่วยกิต หรือผ่านการอบรมการใช้การดูแลรักษาและการป้องกันอันตรายจากการใช้อุปกรณ์และสารกัมมันตรังสีจากสำนักงานพลังงานปรมาณูเพื่อสันติ เป็นผู้ควบคุมดูแลประจำโรงงานเพื่อดำเนินการเกี่ยวกับการใช้สารกัมมันตรังสี | [1],[2],[4],[6],[7] |
16 | ผู้ประกอบกิจการโรงงานที่มีการใช้สารกัมมันตรังสี ต้องจัดทำรายงานข้อมูลเกี่ยวกับชนิด จำนวน แหล่งที่มา วิธีการใช้ และการเก็บรักษาสารกัมมันตรังสีตามแบบ ร.ง. 7 และแจ้งกรมโรงงานอุตสาหกรรมภายในกำหนด 180 วัน | [1],[2],[5] |
ลำดับ | เรื่องที่ต้องปฏิบัติ |
อ้างอิงกฎหมาย ฉบับที่ |
---|---|---|
พระราชบัญญัติ ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน พ.ศ. 2554
จำนวน 2 ฉบับ |
||
พระราชบัญญัติ โรงงาน พ.ศ. 2535
จำนวน 3 ฉบับ |
||
1 | ผู้ประกอบกิจการโรงงานหรือนายจ้างซึ่งผลิตหรือมีไว้ในครอบครองซึ่งต้นกำเนิดรังสีต้องแจ้งจำนวน และปริมาณความแรงรังสีดังกล่าวต่ออธิบดีหรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมายภายใน 7 วันนับตั้งแต่วันที่ผลิตหรือมีไว้ในครอบครอง | [1],[2],[3] |
2 | ผู้ประกอบกิจการโรงงานหรือนายจ้างต้องกำหนดพื้นที่ควบคุมโดยจัดทำรั้ว คอกกั้น หรือเส้นแสดงแนวเขต และจัดทำป้ายเตือนข้อความ "ระวังอันตรายจากรังสี ห้ามเข้า" อย่างน้อยเป็นภาษาไทย ด้วยอักษรสีดำบนพื้นสีเหลืองแสดงไว้ให้เห็นโดยชัดเจนในบริเวณนั้น | [1],[2],[3] |
3 | ห้ามลูกจ้างซึ่งไม่มีหน้าที่ปฏิบัติงานเกี่ยวข้องกับรังสี หรือบุคคลภายนอกหรือหญิงมีครรภ์เข้าไปในบริเวณพื้นที่ควบคุมโดยไม่ได้รับอนุญาต | [1],[2],[3] |
4 | ผู้ประกอบกิจการโรงงานหรือนายจ้างต้องจัดเครื่องมือหรืออุปกรณ์ช่วยลดปริมาณรังสีที่ต้นกำเนิดรังสีหรือที่ทางผ่านของรังสี และกำหนดวิธีและเวลาการทำงานเพื่อป้องกันมิให้ลูกจ้างซึ่งปฏิบัติงานในพื้นที่ควบคุมได้รับปริมาณรังสีสะสมเกินเกณฑ์กำหนด ตามที่กฎหมายกำหนด | [1],[2],[3] |
5 | ผู้ประกอบกิจการโรงงานหรือนายจ้างต้องจัดทำข้อมูลเกี่ยวกับปริมาณรังสีสะสมที่ลูกจ้างได้รับเป็นประจำทุกเดือนตามแบบที่กฎหมายกำหนด | [1],[2],[3] |
6 | ผู้ประกอบกิจการโรงงานหรือนายจ้างต้องจัดให้มีลูกจ้างเป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการทางด้านเทคนิคในเรื่องรังสีประจำสถานประกอบกิจการตลอดระยะเวลาที่มีการทำงานเกี่ยวกับรังสี | [1],[2],[3] |
7 | ห้ามให้ลูกจ้างเข้าพักอาศัย พักผ่อน นำอาหาร เครื่องดื่มหรือบุหรี่เข้าไปในพื้นที่ควบคุม | [1],[2],[3] |
8 | ผู้ประกอบกิจการโรงงานหรือนายจ้างต้องจัดเตรียมที่ล้างมือ ที่ล้างน้ำและที่อาบน้ำ เพื่อให้ลูกจ้างใช้หลังจากปฏิบัติงานเกี่ยวกับรังสีก่อนออกจากที่ทำงาน และต้องให้ลูกจ้างถอดชุดทำงานที่ใช้ปฏิบัติงานเป็นไว้ในสถานที่เหมาะสมเป็นสัดส่วนโดยเฉพาะ | [1],[2],[3] |
9 | ผู้ประกอบกิจการโรงงานหรือนายจ้างต้องจัดให้มีแผนป้องกันและระงับอันตรายจากรังสีในภาวะการทำงานปกติและเหตุฉุกเฉินทางรังสีหรืออุบัติเหตุ และต้องมีการฝึกซ้อมแผนฉุกเฉินทั้งสองรูปแบบอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง | [1],[2],[3] |
10 | ผู้ประกอบกิจการโรงงานหรือนายจ้างต้องเก็บรักษา เคลื่อนย้าย และขนส่งต้นกำเนิดรังสี รวมทั้งการจัดการกากกัมมันตภาพรังสีเพื่อให้เกิดความปลอดภัยแก่ลูกจ้างตามเงื่อนไขและวิธีการที่กฎหมายกำหนด | [1],[2],[3] |
11 | ผู้ประกอบกิจการโรงงานหรือนายจ้างต้องจัดให้มีเครื่องหมาย ฉลาก และสัญญาณเตือน เช่น เครื่องหมายเตือนภัย ฉลากที่มีเครื่องหมายและข้อความเตือน เป็นต้น โดยมีรายละเอียดเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด | [1],[2],[3] |
12 | ผู้ประกอบกิจการโรงงานหรือนายจ้างต้องจัดรายงานเหตุฉุกเฉินทางรังสีหรืออุบัติเหตุร้ายแรง ภายในสามสิบวันนับตั้งแต่วันที่เกิดเหตุการณ์ ในกรณีที่มีการตาย การเจ็บป่วย การประสบภัย หรือการเกิดโรคจากการทำงานเกี่ยวกับรังสีขึ้นอันเนื่องจากเหตุฉุกเฉินทางรังสีหรืออุบัติเหตุร้ายแรงนั้น ต้องจัดรายงานเหตุฉุกเฉินทางรังสีหรืออุบัติเหตุร้ายแรง ภายในสิบห้าวันนับตั้งแต่วันที่เกิดเหตุการณ์ | [1],[2],[3] |
13 | ผู้ประกอบกิจการโรงงานหรือนายจ้างต้องจัดให้มีอุปกรณ์คุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคลให้ลูกจ้าง และต้องอบรมลูกจ้างให้ความเข้าใจอันตรายและวิธีการป้องกันอันตรายจากรังสีก่อนเข้ารับหน้าที่ในพื้นที่ควบคุม | [1],[2],[3] |
14 | ผู้ประกอบกิจการโรงงานหรือนายจ้างต้องจัดให้ลูกจ้างที่ทำงานเกี่ยวข้องกับรังสีตรวจสุขภาพอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง | [1],[2],[3] |
15 | ผู้ประกอบกิจการโรงงานที่มีการใช้สารกัมมันตรังสี ต้องจัดให้มีเจ้าหน้าที่ที่มีคุณสมบัติสำเร็จการศึกษาไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีทางด้านวิทยาศาสตร์ ที่มีการศึกษาเกี่ยวกับการป้องกันอันตรายจากรังสีอย่างน้อยสามหน่วยกิต หรือผ่านการอบรมการใช้การดูแลรักษาและการป้องกันอันตรายจากการใช้อุปกรณ์และสารกัมมันตรังสีจากสำนักงานพลังงานปรมาณูเพื่อสันติ เป็นผู้ควบคุมดูแลประจำโรงงานเพื่อดำเนินการเกี่ยวกับการใช้สารกัมมันตรังสี | [1],[2],[4],[6],[7] |
16 | ผู้ประกอบกิจการโรงงานที่มีการใช้สารกัมมันตรังสี ต้องจัดทำรายงานข้อมูลเกี่ยวกับชนิด จำนวน แหล่งที่มา วิธีการใช้ และการเก็บรักษาสารกัมมันตรังสีตามแบบ ร.ง. 7 และแจ้งกรมโรงงานอุตสาหกรรมภายในกำหนด 180 วัน | [1],[2],[5] |
ลำดับ | รายชื่อกฎหมาย | กฎหมาย |
---|---|---|
1 | พระราชบัญญัติ ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน พ.ศ. 2554 | |
2 | พระราชบัญญัติ โรงงาน พ.ศ. 2535 | |
3 | กฎกระทรวง กำหนดมาตรฐานในการบริหารและการจัดการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานเกี่ยวกับรังสีชนิดก่อไอออน พ.ศ. 2547 | |
4 | ประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม ฉบับที่ 1 (พ.ศ. 2542) ออกตามความในพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2535 เรื่อง คุณสมบัติเจ้าหน้าที่ที่ดำเนินการเกี่ยวกับโรงงานที่มีการใช้สารกัมมันตรังสี | |
5 | ประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม ฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2542) ออกตามความในพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2535 เรื่อง การรายงานข้อมูลที่เกี่ยวกับชนิด จำนวน แหล่งที่มา วิธีการใช้และการเก็บรักษาสารกัมมันตรังสี | |
6 | ประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม ฉบับที่ 27 (พ.ศ. 2535) ออกตามความในพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2512 เรื่อง หน้าที่ผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงานที่มีการใช้สารกัมมันตรังสี | |
7 | กฎกระทรวง กำหนดมาตรฐานในการบริหารและการจัดการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานเกี่ยวกับรังสีชนิดก่อไอออน พ.ศ. 2547 |
ลำดับ | รายชื่อฟอร์ม | แบบฟอร์ม |
---|---|---|
1 | รายงานข้อมูลเกี่ยวกับสารกัมมันตรังสีท้ายประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม ฉบับที่ 2 (พ.ศ.2542) (แบบ ร.ง.7) |