คุณกำลังมองหาอะไร?
ขนาดตัวอักษร Icon Icon
Icon
ความตัดกันของสี Icon
Icon
Icon
กนอ. มอบชุด PPE จำนวน 1,000 ชุด ให้สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.)

ยอดการเปิดอ่าน 323 ครั้ง

นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่มีการแพร่ระบาดได้ง่าย ทำให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานหรือบุคลากรทางการแพทย์ผู้ที่ต้องรักษาคนไข้นั้น มีความเสี่ยงที่จะติดเชื้ออยู่ตลอดเวลา ดังนั้น การสวมใส่หน้ากากอนามัยเพียงอย่างเดียวคงไม่เพียงพอ จึงจำเป็นต้องมีชุดอุปกรณ์ป้องกันความปลอดภัย (PPE : Personal Protective Equipment) ซึ่งก็คืออุปกรณ์ป้องกันและคุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคลให้เป็นไปตามมาตรฐานหลักขององค์กรอนามัยโลก โดย กนอ.เล็งเห็นความสำคัญดังกล่าว จึงได้ประสานไปยังสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) เพื่อให้การสนับสนุนอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE) จำนวน 1,000 ชุด ให้กับสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ โดยมอบหมายให้นายอัฐพล จิรวัฒน์จรรยา รองผู้ว่าการ กนอ. เป็นผู้แทนส่งมอบชุด PPE ดังกล่าว ในวันที่ 21 พฤษภาคมนี้ ณ สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาด และลดความเสี่ยงจากการสัมผัสกับผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยง และผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19

สำหรับสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) เป็นหน่วยงานที่ได้รับมอบหมายภารกิจในการรับ-ส่งผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ไปยังโรงพยาบาลหรือโรงพยาบาลสนาม โดย สพฉ. ได้จัดให้มีชุดปฏิบัติการฉุกเฉินพิเศษ (Special Covid-19 Operation Team : SCOT) ในการออกปฏิบัติการช่วยเหลือ รับ-ส่งผู้ป่วยฉุกเฉิน ซึ่งผู้ปฏิบัติงานมีโอกาสที่จะสัมผัสกับผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยง และผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 อยู่บ่อยครั้ง โดยปัจจุบันอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคลสำหรับทีมชุดปฏิบัติการดังกล่าวมีไม่เพียงพอ กนอ. จึงได้เสนอความช่วยเหลือด้วยการสนับสนุนอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE) จำนวน 1,000 ชุด ให้กับสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ โดยการมอบอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคลดังกล่าว เพื่อร่วมสนับสนุนและให้ความช่วยเหลือหน่วยงานที่มีความจำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ในการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อเป็นเกราะป้องกันช่วยยกระดับความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกให้บุคลากรทางการแพทย์ให้ปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างไร้กังวล ลดความเสี่ยงในการติดเชื้อจากผู้ป่วย

“กนอ.ตระหนักถึงความจำเป็นในการดูแลความปลอดภัยของบุคลากรทางการแพทย์ ขณะปฏิบัติหน้าที่ในการรับ-ส่งผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) เนื่องจากพบว่าเจ้าหน้าที่ 1 คน จำเป็นต้องใช้ชุด PPE ประมาณ 3 ชุดต่อวัน ดังนั้น การสนับสนุนในครั้งนี้เป็นครั้งสำคัญในการสร้างพลังอันยิ่งใหญ่ที่จะร่วมกันสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับสังคมและเราจะผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกัน”นายวีริศ กล่าว

ทั้งนี้ บุคลากรทางการแพทย์จำเป็นต้องสวมใส่ ชุด PPE เพื่อป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ตามมาตรฐานองค์การอนามัยโลก โดยชุด PPE สามารถป้องกันการติดเชื้อผ่านผิวหนังและสารคัดหลั่งของผู้ป่วย ช่วยปกคลุมร่างกายทุกส่วน ป้องกันการซึมของน้ำ และป้องกันการติดเชื้อทางอากาศได้เป็นอย่างดี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Icon
16
09.2568
กนอ. จับมือ บ่อทอง อีอีซี ปั้น ”นิคมอุตสาหกรรมบ่อทอง อีอีซี” มุ่งเน้นสู่การเป็นนิคมอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ ตั้งฐานการผลิตระยะยาวบน EEC

กนอ. ร่วมดำเนินงานกับบริษัท บ่อทอง อีอีซี จำกัด จัดตั้ง ”นิคมอุตสาหกรรมบ่อทอง อีอีซี” ซึ่งเป็นนิคมอุตสาหกรรมบนพื้นที่ 500 ไร่ ภายใต้แนวคิด นิคมอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ หรือ Eco-Industrial Estate บริษัทฯ คำนึงถึงการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ การบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน และการอยู่ร่วมกับชุมชนอย่างสมดุล

Icon
33
0
Icon
15
09.2568
กนอ. จับมือ 3 พันธมิตร ยกระดับการจัดการของเสียอุตสาหกรรม ขับเคลื่อนเศรษฐกิจหมุนเวียน สู่เป้าหมาย Net Zero

การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือว่าด้วยการปรับปรุงคุณภาพของเสียอุตสาหกรรม ระหว่าง 3 บริษัทชั้นนำ ได้แก่ บริษัท บริหารและพัฒนาเพื่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม จำกัด (มหาชน) หรือ GENCO, บริษัท เอสซีจี ซิเมนต์ จำกัด (SCG Cement) และ บริษัท เอส ซี ไอ อีโค่ เซอร์วิสเซส จำกัด (SCI eco) โดยมีนายยุทธศักดิ์ สุภสร ประธานกรรมการ กนอ. และนายสุเมธ ตั้งประเสริฐ ผู้ว่าการ กนอ. ให้เกียรติเข้าร่วมพิธี ณ สำนักงานใหญ่ กนอ.เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2568

Icon
52
0
Icon
15
09.2568
พิธีอำลาตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม

ผู้บริหาร กนอ. เข้าร่วมพิธีอำลาตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม

Icon
23
0
Icon
15
09.2568
กนอ. จับมือ ส.อ.ท. เดินหน้ายกระดับการลงทุนอุตสาหกรรมเป้าหมาย เสริมศักยภาพอุตสาหกรรมไทย สู่การเติบโตอย่างยั่งยืน

การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) และ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ประกาศก้าวสำคัญของความร่วมมือภาคีรัฐและเอกชน ด้วยการลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) เพื่อยกระดับและเร่งรัดการลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย

Icon
43
0
Border